6.8
เทคโนโลยีสะอาด ( Clean Technology:CT )
จากการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดปัญหามลภาวะต่างๆ
และกำลังเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกปัจจุบัน ดังนั้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจึงมีการพัฒนาหลักการของเทคโนโลยีสะอาด ( Cleaner Technoiogy ) การผลิตที่สะอาด ( Cleaner Production
) การป้องกัรมลพิษ ( Promotion Prevention
) รวมไปถึงการลดการเกิดของเสียให้น้อยที่สุดในกระบวนการผลิต ( Wase Minimzation ) ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ
เหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อลดปัญหาสิ่งเเวดล้อมในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมว่าจะเลือกใช้วิธีการใดในกระบวนการผลิตของตนเอง
เทคโนโลยีสะอาด
( Clean
Technology : CT )
คือ
กลยุทธ์ที่ใช้ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัตถุดิบ และพลังงานในการผลิต ทำให้สามารถลดต้นทุน โโยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์บริการ
และกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อลดของเสียจากแหล่งกำเนิด
อันจะช่วยลดภาระในการกำจัดของเสีย
รวมถึงก่อให้เกิดการใช้พลังงานทรัพยากรและวัตถุดิบต้นทุนอย่างคุ้มค่าอันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการ ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการเเข่งขันในตลาดโลก อีกทั้งยังพัฒนาความสามรถ และประสิททธิภาพของธุรกิจ และเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่มาตรฐาน ISO 14000 ของอุตสาหกรรมอีกด้วย
หลักการของเทคโนโลยีสะอาด
หลักการของเทคโนโลยีสะอาดมุ่งเน้นไปที่การเเก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือ
การลดการใช้พลังงาน
การใช้น้ำและทรัพยากรธรรมมาชาติอื่นๆ
ซึ่งหลักการของเทคโนโลยีสะอาดเน้นที่การป้องกันมากกว่าการเเก้ปัญหาโดยลดของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการต่างๆ
ให้น้อยที่สุด
โดยวิธีการเเยกสารพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนซึ่งประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต การเปลี่ยนเเปลงวัตถุดิบ
ที่ทำให้เกิดผลพลอยได้ที่ไม่เป็นอันตราย
รวมทั้งการลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการนำกลับมาใช้ซ้ำ ( Reuse ) หรือการนำกลับไปใช้ใหม่ ( Recycle
) จนกระทั้งของเสียนั้นไม่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก จึงนำไปบำบัดหรือกำจัดต่อไป

รูปที่
6.8 หลักการของเทคโนโลยีสะอาด
จากที่กล่าวมาสามารถสรุปหลักการของเทคโนโลยีสะอาดได้ดังนี้
( 1 ) การลดมลพิษที่เเหล่งกำเนิด แบ่ง 2 แนวทางใหญ่ๆ คือ
การเปลี่ยนเเปลงผลิตภัณฑ์และการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต
1.1 การเปลี่ยนเเปลงผลิตภัณฑ์ ( Product Reformulation ) อาจทำได้โดยการออกเเบบผลิตภัณฑ์ให้มีผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อมน้อยที่สุด
หรือการออกแบบให้มีอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ได้นานขึ้น
1.2 การเปลี่ยนเเปลงกระบวนการผลิต
( Process Change ) แบ่งได้
3 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย
การเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ ( Input
Material Change ) โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ลดหรือเลิกการใช้วัตถุดิบที่เป็นอันตราย
เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของสารอันตรายเข้าไปในกระบวนการผลิต
และพยายามใช้วัตถุดิบที่สามารถดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
การเปลี่ยนเเปลงเทคโนโลยี ( Technology
Improvement ) เป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตหรือการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ได้เเก่ การปรับปรุงแผนผังโรงงาน
การเพิ่มระบบอัตโนมัติ การปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ
มาใช้ เพื่อก่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด
การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน ( Operaton
Management ) เป็นการบริหารระบบการวางแผนและควบคุมการผลิต
เพื่อเพิ่มศักยภาพของกระบวนการผลิต
ให้สามารถลดต้นทุนในการผลิตและการลดการก่อมลพิษทางสิ่งเเวดล้อม
โดยกำหนดให้มีขั้นตอนการผลิต
กระบวนการทำงาน
กระบวนการบำรุงรักษา
รวามไปถึงการจัดการระบบ การบริหารงานในโรงงานอย่างชัดเจน
(
2 ) กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ แบ่งออกได้
2
แนวทางคือ
2.1 การใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียน โดยการนำวัตถุดิบที
ไม่มีคุณภาพกลับมาใช้ประโยชน์ หรือการใช้ประ
โยชน์จากสารหรือวัสดุที่ปนอยู่กับของเสียโดยการ
นำมาใช้ในกระบวนการผลิตเดิม หรือกระบวนการ
ผลิตในขั้นตอนอื่น
2.2 การใช้เทคโนโลยีหมุนเวียน
เป็นการนำเอาของเสีย
ผ่านกระบวนการต่างๆ
เพื่อนำทรัพยากรกลับมาใช้อีก
แนวคิดของเทคโนโลยีสะอาด คือ
การป้องกันมลพิษที่แหล่งกำเนิด และการลดปริมาณสารเคมีที่ใช้ให้น้อยที่สุด
โดยทำได้ตามขั้นตอนที่เรียงลำดับจากมากไปน้อย
ดังนี้
การลดที่แหล่งกำเนิด
การใช้หมุนเวียน
การบำบัด
การปล่อยทิ้ง
การดำเนินการตามหลักการของเทคโนโลยีสะอาด จะเน้นการลดมลพิษที่ต้นกำเนิดมากกว่าการแก้ปัญหาที่ปลายทาง กล่าวคือ
ลดปริมาณการใช้ทรัพยากรลง
โดยใช้หลักบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพเพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด ของเสียที่เกิดขึ้น ต้องมีการนำกลับมาใช้ใหม่
เพื่อลดของเสียที่จะส่งไปสู่ขั้นตอนการบำบัดของเสียที่นำไปบำบัดผ่านกระบวนการที่มีประสิทธิภาพจึงสามารถปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมได้
การประยุกต์ใช้หลักการเทคโนโลยี
ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนดังนี้
1.
วางแผนและจัดองค์การ (Planning
and Organization)
การวางแผนจัดองค์การนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของผู้บริหารโดยการกำหนดนโยบายและเป้าหมายซึ่งจะเป็นแนวทาง
ในการนำเทคโนโลยีสะอาด(CT)
ขององค์การนั้นๆนอกจากนั้นผู้บริหารสูงสุดยังต้องให้การสนับสนุน
กิจกรรมต่างๆโดยการจัดตั้งคณะทำงานเทคโนโลยีสะอาด (ทีม CT )และในขั้นตอนนี้อาจจะมีการพิจารณาถึงอุปสรรคซึ่งอาจมีผลต่อการดำเนินงาน
และควรเตรียมการเพื่อการแก้ไขไว้ด้วย
2.
ทำการประเมินเบื้องต้น (Pre
assessment)
หลังจากที่ได้โครงสร้าง
และกอบในการทำงานแล้วคณะทำงานต้องทำการประเมินเบื้องต้นว่ามีบริเวณใดบ้าง
ที่เกิดความสูญเสียและสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้และเลือกบริเวณที่จะทำการประเมิน
โดยละเอียดต่อไปการประเมินเบื้องต้นอาศัยหลักสามัญสำนึกเป็นส่วนใหญ่และยังไม่ลงลึกในรายละเอียดผลจากการประเมินนี้
จะใช้เป็นแนวทาง กำหนดบริเวณ หรือทรัพยากรที่จะศึกษาในการประเมิน โดยละเอียดต่อไป
3. ทำการประเมินโดยละเอียด
(Assessment)
เมื่อได้พื้นที่หรือบริเวณที่เกิดความสูญเสียสูง
และต้องการปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว จึงเริ่มทำการประเมินโดยละเอียด
เพื่อจัดทำสมุดมวลและพลังงาน เข้าออก
เพื่อทำให้ทราบถึงสาเหตุและแหล่งกำเนิดของของเสีย หรือมลพิษการสูญเสียพลังงานความเสี่ยงและสภาพแวดล้อม
การทำงานที่ไม่ดี จากนั้นจึงทำรายการและจัดลำดับความสำคัญ
ของทางเลือกเพื่อการปรับปรุงต่อไป
4.
ศึกษาความเป็นไปได้(Feasibility)
ศึกษาความเป็นไปได้
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงระดับความละเอียดที่ต้องทำในแต่ละทางเลือกและความพร้อมของข้อมูล
นอกจากนั้นสำหรับโครงการที่ต้องมีการลงทุนสูงต้องประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนและทำรายการของทางเลือกที่เป็นไปได้
5.
ลงมือปฏิบัติ (lmplementation)
การลงมือปฏิบัติเพื่อให้ทางเลือกไว้ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนการทำงานโดยละเอียดโดยในการวางแผนควรประกอบด้วยเรื่องที่จะทำบริเวณเป้าหมายขั้นตอนการปฏิบัติกำหนดระยะเวลาเสร็จสิ้นและผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน
6.
ติดตามประเมินผล (Monitoring
and Evaluation)
เมื่อการทำงานดำเนินไประยะหนึ่งควรมีการติดตามประเมินผลเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
หรือถ้าหากมีปัญหาประการใด
จะได้ทบทวนแก้ไขเพื่อมิให้เป็นอุปสรรคในการทำงานต่อไปการติดตามประเมินผลอย่างเป็นการทำให้
CT ของบริษัทดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
และดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำเทคโนโลยีสะอาด
1.
ความมุ่งมั่นของผู้บริหาร
2.
ความมั่นคงในนโยบาย
3.
การได้รับฝึกอบรมในทุกระดับ
4.
มีศรัทธาและเป็นคุณค่าของเทคโนโลยีสะอาดอย่างแท้จริง
5.
สร้างแรงจูงใจที่เหมาะสม
6. การมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ
7.
มีแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่ทันสมัย 8 มีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ
9.
ทำเทคโนโลยีสะอาดอย่างต่อเนื่อง
ปัญหา อุปสรรค ของการนำเทคโนโลยีสะอาดไปใช้
1.
ไม่เข้าใจแนวความคิดเทคโนโลยีสะอาด
2.
ไม่มีข้อมูล
3.
การไม่มีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การ
4.
ขาดเทคโนโลยี ทั้งความรู้ของบุคลากร และการพัฒนาวัสดุอุปกรณ ์เครื่องมือ
เครื่องจักร ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
5.
ตัวอย่างความสำเร็จ CT
ในเชิงรูปธรรมอย่างมีจำนวนน้อย
6.
การไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลความสำเร็จของ CT
ในวงกว้าง
7.
บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านสิทธิยังมีน้อย
ประโยชน์เทคโนโลยีสะอาด
ประโยชน์ต่อตนเอง
1.มีสุขภาพกายที่แข็งแรง
ปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ
เพราะมีสารพิษที่ปล่อยสู่ธรรมชาติและตกค้างอยู่ในผลิตภัณฑ์น้อยลง
สุขภาพจิตก็ดีด้วย
2.เทคโนโลยีสะอาดทำให้เราได้ใช้สินค้าอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงขึ้น
3.มีสภาพแวดล้อม
ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น แม่น้ำลำคลองจะสะอาดขึ้นและมีขยะลดน้อยลง
4.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
5.มีความภาคภูมิใจในผลงานที่มีส่วนทำให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นในสังคม
ประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม
1.มีความสมานสามัคคีระหว่างชุมชน
ชุมชนและโรงงานดีขึ้นเพราะเข้าใจปัญหาและร่วมกันหาหนทางแก้ไข
2.ทำให้เกิดสังคมที่น่าอยู่
มีทรัพยากรธรรมชาติเหลือให้ใช้อย่างเพียงพอ
เพราะมีการจัดสรรและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น
มีการนำเอาของเสียกลับมาใช้ใหม่เป็นต้น
ประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม
1.ช่วยทำให้เกิดการประหยัดการใช้นำ
วัตถุดิบ พลังงาน และลดการเกิดมลพิษ โดยกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่และใช้ซ้ำ
2.การปรับสภาพการทำงาน
เทคโนโลยีสะอาดจะทำให้การทำงานทีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากคนงานมีสุขอนามัยดีขึ้น
และลดความเสี่ยงใรการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ
3.การปรับปรุงคุณภาพ
คุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญของผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากต้องแข่งขันในระดับสากล
การลดมลพิษ ณ.แหลงกำเนิดทำให้คุณภาพสินค้าดีขึ้น
4.การเพิ่มประสิทธิภาพและกำไร
การประหยัดวัตถุดิบและพลังงานนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตซึ่งเป็นการเพิ่มกำไร
และขีดความสามารถในการแข่งขัน
5.เทคโนโลยีสะอาดทำให้โรงานเกิดของเสียน้อยลง
ง่ายต่อการจัดการและยังปฎิบัติได้ตามมาตรฐานกฎหมายบ้านเมือง
6.การลดต้นทุนการบำบัดของเสีย
การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิดทำให้มลพิษมีปริมาณลดลงซึ่งจะมีผลทำให้ต้นทุนการบำบัดของเสียลดลงด้วย
7.การมีภาพพจน์ที่ดีต่อสาธารณชน
เทคโนโลยีสะอาดทำให้โรงงานหรือสถานประกอบการสะอาดและทำให้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีดับชุมชนรอบข้าง
8.เทคโนโลยีสะอาดจะลดจำนวนมลพิษจากอุตสาหกรรมลง
และเป็นการลดการสะสมตัวของความเป็นพิษต่างๆในสิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ต่อภาครัฐ
1.เทคโนโลยีสะอาดช่วยแบ่งเบาภารกิจในการติดตามตรวจสอบของภาครัฐ
2.บรรลุตามเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
3.ส่งเสริมภาพพจน์ของประทศไทยในด้านการจ้ดการสิ่งแวดล้อมและเพิ่มศักยภาพในการส่งออก
การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพิ่มผลผลิตมาประยุกต์ใช้ในการจัดการงานอาชีพ
มีเป้าหมายเพื่อ ปรับปรุงกระบวนการจัดการทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นการบริหาร
การปฎิบัติงานของพนักงงาน การผลิต
การบำรุงดูแลรักษาเครื่องจักรการส่งมอบสินค้าและการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า
เพื่อลดต้นทุนและลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับองค์การ ตลอดจนการการสร้างความรับผิดชอบต่อพนักงาน
ลูกค้า สิ่งแวดล้อม สังคมและประเทศชาติ
ซึ่งจัดเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์การในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมหรือการบริการสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ
6.7 การเพิ่มผลผลิตสีเขียว (
Green Productivity: GP )
การเพิ่มผลผลิตสีเขียว ( Green Productivity )
เป็นกลยุทธ์สำหรับการเพิ่มผลผลิตและเพิ่มสมรรถนะในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน โดยอาศัยการผสมผสานแห่งเอเชียในปี
พ.ศ.2537
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเพิ่มผลผลิตของประเทศที่พัฒนาแล้ว
วิธีการดำเนินการของการเพิ่มผลผลิตสีเขียว
ขั้นตอนที่ 1 : การเริ่มต้น
กิจกรรมที่ 1 :
การจัดตั้งคณะทำงาน หรือการสร้างทีมจีพี
ทีมทำงานประกอบด้วยสมาชิกจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในองค์การ หากองค์การมีขนาดใหญ่อาจจัดตั้งทีมงานย่อยสำหรับแต่ละส่วนก็ได้
ทีมจีพีมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำมาตรการต่างๆ ของจีพี
ทีมงานควรจะเป็นทีมงานภายในบริษัท
เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องยั่งยืน
กิจกรรมที่ 2 : การสำรวจองค์การและเก็บข้อมูล
การเดินสำรวจกิจกรรมต่างๆ ขององค์การร่วมกันของทีมจีพีจะช่วยให้สมาชิกทั้งหมดเห็นสภาพจริงที่เกิดในองค์การ ข้อมูลที่ได้จาการสำรวจและที่เก็บรวมรวมได้จะถูกนำทาวิเคราะห์ถึงปัญหาและต้นเหตุของปัญหาวิธีนี้จะช่วยในการเลิดปัญหาเบื้องต้นต้นที่ทำงานด้านจีพี
ขั้นตอนที่ 2 : การวางแผน
กิจกรรมที่ 3 :
การแจกแจงปัญหาและต้นเหตุ
ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นระดมสมอง
การสมดุลมวลสารและพลังงาน
การใช้ภูมิก้างปลา หรืออื่นๆ
ทีมจีพีสามารถที่จะทราบถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในองค์การ รวมถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านั้นได้
กิจกรรมที่ 3 :
การกำหนดวัตถุประสงค์
จากปัญหาและต้นเหตุของปัญหาที่ได้จากกิจกรรมที่ 3
ทีมจีพีสามารถกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น วัตถุประสงค์ควรจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่ได้ระบุไว้ วัตถุประสงค์หนึ่งอาจประกอบด้วยหลายเป้าหมาย ซึ่งอาจใช้เวลานาน และเป้าหมายควรตั้งให้สอดคล้องกับความต้องการ
ขั้นตอนที่ 3 :
การกำหนด ประเมิน และจัดลำดับความสำคัญของทางเลือกจีพี
กิจกรรมที่ 5 :
การกำหนดทางเลือกจีพี
เมื่อมีเป้าหมายที่แน่ชัด
ทีมจีพีสามารถกำหนดทางเลือกจีพีที่จะนำไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้
กิจกรรมที่ 6 : การคัดสรร
ประเมิน
และจัดลำดับความสำคัญของทางเลือกจีพี
ทางเลือกจีพีที่ได้จะถูกนำมาคัดสรร ประเมิน
และจัดลำดับความสำคัญโดยพิจารณาทั้งทางด้านเทคนิคสิ่งแวดล้อม และการเงิน
เพื่อเลือกทางเลือกจีพีที่มีความสำคัญเร่งด่วน สามารถเป็นไปได้ในทางปฏิบัติและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์การ
ขั้นตอนที่ 4 :
การนำทางเลือกจีพีไปปฏิบัติ
กิจกรรมที่ 7 : การกำหนดแผนดำเนินงาน
ทางเลือกจีพีที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกนำไปแจกแจงรายละเอียดเป็นแผนปฏิบัติการ โดยครอบคลุมถึงกิจกรรมที่กระทำ ผู้รับผิดชอบ
และระยะเวลาดำเนินการ
กิจกรรมที่ 8 :
การดำเนินงานตามแผนที่วางไว้
ทีมจีพีจะทำการปรับปรุงองค์การตามแผนดำเนินการที่วางไว้ในช่วงนี้อาจจำเป็นต้องมีการปรับแผนดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
กิจกรรมที่ 9 : การฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ
เพื่อให้การปรับปรุงดำเนินไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ควรมีการอบรมบุคลากรในทุกระดับให้เข้าใจถึงแนวคิดของการเพิ่มผลผลิตสีเขียว และขอบเขตความรับผิดชอบในหน้าที่การทำงาน
พร้อมทั้งกระตุ้นการมีส่วนร่วมเพื่อให้การปรับปรุงต่างๆ
มีความต่อเนื่องและยั่งยืน
ขั้นตอนที่ 5 : การเฝ้าตรวจและประเมินผล
กิจกรรมที่ 10 : การเฝ้าตรวจและประเมินผล
ภายหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตามทางเลือกจีพีแล้ว
ทีมจีพีจำเป็นต้องเฝ้าตรวจรวบรวมข้อมูล
ประเมินที่ได้ และเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อให้ทราบถึงผลสำเร็จของการดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้
กิจกรรมที่ 11 : การตรวจสอบโดยผู้บริหาร
ข้อมูลและผลลัพธ์ที่ได้จะถูกตรวจโดยผู้บริหารเพื่อประเมินผลประเมินโยชน์โดยรวมที่องค์การได้รับพร้อมทั้งทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานของทางเลือกจีพี เพื่อหาทางแก้ไขในอนาคต
ขั้นตอนที่ 6 : การดำเนินการที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิดของจีพี
กิจกรรมที่ 12 : การเสริมสร้างแนวคิดจีพี ในระบบการจัดการขององค์การ
ผู้บริหารขององค์การควรสร้างบรรยากาศและวางนโยบายที่จะเสริมสร้างและส่งเริมแนวคิดของการเพิ่มผลผลิตสีเขียวในองค์การ
เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ต่อเนื่องละยั่งยืน
กิจกรรมที่ 13 : การกำหนดปัญหาใหม่เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ทีมจีพีทำการสำรวจกิจกรรมต่างๆ ขององค์การและกำหนดปัญหาใหม่เพื่อวัฏจักรการทำงานใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในองค์การ
6.6 ระบบข้อเสนอแนะ ( Suggestion System : SS )
ระบบข้อเสนอแนะ (
Suggestion System ) เป็นเทคนิควิธีการเพิ่มผลผลิตวิธีหนึ่งที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นปรับปรุงงานที่ทำอยู่ช่วยให้การปฏิบัติงานในส่วนต่างๆ
มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่งผลให้องค์การสามารถปรับปรุงงานและทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการนี้เป็นวิธีการหนึ่งของการจูง ( Motivation
)
ซึ่งผู้บริหารหรือหัวหน้างานจะต้องทำการโน้มน้าวจิตใจของพนักงานให้ประสานสามัคคีร่วมกันนำองค์การนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนด การสร้างความรู้สึกให้พนักงานส่วนหนึ่งขององค์การ
จึงมีส่วนช่วยแก้ไขและปรับปรุงการเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น เรียกว่า “ระบบบริหารแบบล่างขึ้นสู่บน”
วิธีการนี้เริ่มนำมาใช้ในประเทศไทย
ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานอีกประการหนึ่งของการเพิ่มผลผลิต ซึ่งเป็นการระดมความคิดเพื่อการพัฒนาคุณภาพและการเพิ่มผลผลิตโดยบุคคลและกลุ่มคน
จุดมุ่งหมายของระบบข้อเสนอแนะ
( 1 )
เพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการปรับปรุงการทำงาน
( 2 ) เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีความคิดริเริ่ม
การพัฒนาปรับปรุงให้หน่วยงานได้มีการเพิ่มผลผลิตสูงขึ้น
( 3 )
เพื่อให้พนักงานมีความพอใจในการทำงาน
และแก้ไขปัญหาปรับปรุงของตนเองที่ปฏิบัติอยู่แล้วให้ดีขึ้น
การปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงาน
กระบวนการผลิต และลดเวลาการปฏิบัติ
การปรับปรุงการใช้งานของอุปกรณ์ เครื่องมือ
เครื่องจักร
การประหยัดวัสดุ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการปรับปรุงคุณภาพ
การปรับสภาพการทำงานด้วยความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
ข้อเสนอแนะเหล่านี้อาจได้รับการกรอกในแบบฟอร์ม และมายังคณะกรรมการโดยผ่านทางหัวหน้างาน
ข้อเสนอแนะที่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะถูกนำไปปฏิบัติภายในองค์การเพื่อเป็นการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของแต่ละหน่วยงานในองค์การให้มีผลงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น